ข้อมูลเกี่ยวกับสุนัขพันธุ์ โคมอนดอร์ (Komondor) และลักษณะนิสัย

โคมอนดอร์ (ภาษาฮังการเรียนหลายตัวอ่าน  komondorok) มีรูปลักษณ์ภายนอกที่โดดเด่น ไม่ใช่เพียงขนาดใหญ่และมีกล้ามเนื้อมาก แต่เป็นลักษณะที่น่าตื่นตาตื่นใจของขนสีขาวที่มีลักษณะเป็นพู่ ที่หยิกขอดเหมือนกับผม Rastafarian dreadlocks

โคมอนดอร์เพศเมียมีความสูงเฉลี่ย 25 1/2 นิ้ว และเพศผู้ 27 1/2 นิ้ว และหนักระหว่าง 80 ถึง 120 ปอนด์ (36 ถึง 54 กิโลกรัม) สุนัขพันธุ์นี้มีศรีษะขนาดกลางถูกปกคลุดด้วยเส้นขนที่หยิกคอด ร่างกายมีกล้ามเนื้อแข็งแรงและหาตรง

ขนของโคมอนดอร์ มีลักษณะเหมือนไม้ม๊อบเหมือนกับของแกะฮังกาเรียน แร๊กก้า (Hungarian racka sheep) ที่พัฒนาขึ้นเพื่อป้องกันเขาจากนักล่าและอากาศที่แปรปรวน ขนสีขาวนี้ช่วยให้สุนัขตัวนี้กลมกลืนเป็นเนื้อเดียวกับฝูงแกะ ขนของลูกสุนัขพันธุ์นี้จะปุกปุย และเริ่มที่จะจับตัวเป็นก้อนเมื่อมีอายุประมาณ 8 - 10 เดือน

ลักษณะนิสัย:

เนื่องจากสุนัขพันธุ์นี้เป็นสุนัขต้อนฝูงสัตว์ โคมอนดอร์จะระแวงคนแปลกหน้าและมีความรู้สึกปกป้อง ในปัจจุบัน เขายังทำหน้าที่เป็นสุนัขอารักขา"ฝูงสัตว์" (flock)  และเพื่อนคู่หูของมนุษย์

แรกเริ่มโคมอนดอร์ทำงานในที่เปิดโดยลำพัง เขาต้องทำการตัดสินใจด้วยตนเองเพื่อประโยชน์ต่อฝูงสัตว์ที่เขาอารักขา ซึ่งสิ่งนี้ได้กลายเป็นดาบสองคนสำหรับสุนัขพันธุ์นี้ในปัจจุบัน เนื่องจากถึงแม้ว่า เขาฉลาดและมีสัญชาตญาณของการปกป้อง การมีความคิดเป็นของตัวเองของสุนัขพันธุ์นี้ทำให้เขาไม่ได้เป็นสุนัขที่เหมาะกับทุกคน

นอกจากนี้ โคมอนดอร์ยังเป็นสุนัขของครอบครัวที่น่ารัก เขาชอบที่จะให้เจ้าของอยู่ในสายตาตลอดเวลา และมักที่จะเดินตามเขาจากห้องหนึ่งไปยังอีกห้องหนึ่ง เขามักที่จะดีกับเด็กในครอบครัวและสามารถที่จะปรับตัวให้เข้ากับสัตว์เลี้ยงอื่นๆในครอบครัว  เจ้าของในอุดมคติของโคมอนดอร์คือคนที่มีอุปนิสัยเหมาะกับสุนัขที่ได้อารักขาฝูงปศุสัตว์เมื่อหลายร้อยปีที่ผ่านมา ไม่ใช่จะเหมือนกับลักษณะที่เป็นไปในปัจจุบัน

อาศัยอยู่กับ:

การดูแลขนเป็นสิ่งที่ท้าทายที่สุดสำหรับเจ้าของโคมอนดอร์ ขนที่หยิกคอดจับกันเป็นก้อนของสุนัขพันธุ์นี้จะเกิดขึ้นตามธรรมชาติเมิ่อเริ่มเป็นผู้ใหญ่ ในระหว่างนั้น เจ้าของควรที่จะจับก้อนที่จับกันเป็นก้อนใหญ่แล้วฉีกออกเป็นเส้นเล็กๆ เพื่อให้เป็นเส้นคอดที่เน้น เมื่อขนก่อตัวเรียบร้อยแล้วจะยาวขึ้นตามอายุ และถึงพื้นหากไม่ตัด

สุนัขพันธุ์นี้จะผลัดขนปีละ 2 ครั้ง ซึ่งในช่วงนี้ควรจับขนของเขาค่อยๆ แยกออกจากกันเพื่อป้องกันการจับตัวเป็นก้องใกล้กับผิวหนัง ซึ่งกระบวนการนี้ทำได้ง่ายและใชเวลาเพียงแค่ไม่กี่ชั่วโมงต่อปี ควรดูแลรักษาความสะอาดขนของเขาเป็นประจำทุกสัปดาห์ เพื่อให้ขนคงความเรียบร้อย ควรถอนขนที่บริเวณหูหากมีความจำเป็นและตัดขนที่ปลายเท้า

ผู้ดูแลหลายคนชอบที่จะตัดขนให้มีความยาวประมาณ 8 ถึง 10 นิ้ว เนื่องจากการปล่อยขนให้ยาวละพื้นทำให้ยากต่อการดูแลรักษาความสะอาด ควรที่จะตัดขน 2-3 ครั้งต่อปี และอาบน้ำเป็นประจำสม่ำเสมอเพื่อป้องกันสิ่งสกปรกสะสมในเส้นขน การอาบน้ำและเป่าแห้งจะใช้เวลานาน

การฝึกและตรวจสอบพฤติกรรรมของโคมอนดอร์เป็นอีกหนึ่งความท้าทาย ผู้ดูแลสุนัขพันธุ์นี้ต้องเริ่มฝึกตั้งแต่ยังเป็นลูกสุนัข โดยสอนให้เขารู้จักการปฏิบัติตามคำสั่งและเชื่อฟังการตัดสินใจของเจ้าของ ซึ่งการฝึกให้เชื่อฟังนี้ควรเริ่มทำตั้งแต่สุนัขอายุ 4 ถึง 8 เดือน นอกนี้การฝึกให้เข้าสังคมควรจะต้องทำตังแต่ยังเป็นลูกสุนัขเช่นกัน เพื่อให้เขามีปฏิสัมพันธ์ที่ดีกับมนุษย์และสัตว์เลี้ยงตัวอื่นในอนาคต เนื่องจากสุนัขพันุธุ์มีแนวโน้มที่จะตัดสินใจด้วยตนเองว่าจะต้อนรับใคร เขาควรได้รับการฝึกว่าควรปฏิบัติตนอย่างไรเมื่อมีคนแปลกหน้ามาที่บ้าน

สุนัขพันธุ์นี้จะตื่นตัวเสมอ ดังนั้นจึงเป็นนักเห่าที่เสียงดัง ซึ่งประเด็นนี้เป็นสิ่งที่ควรคำนึงถึงหายว่าสุนัขตัวนี้ต้องอาศัยอยู่ใกล้กับเพื่อนบ้าน ถึงแม้ว่าเขาจะวิ่งเร็ว โคมอนดอร์ผู้ใหญ่ส่วนใหญ่จะไม่กระตือรือล้นและต้องการการออกกำลังกายเพียงเล็กน้อย เขามักจะประจำที่อยู่นิ่งในตำแหน่งเพื่อการอารัขา ดังนั้นสนามหญ้าขนาดใหญ่ไม่ใช่สิ่งจำเป็นสำหรับเขา ควรที่จะพาเขาเดินวันละ 2- 3 ครั้ง

ประวัติ:

สุนัขพันธุ์นี้เป็นสุนัขอารักขาฝูงสัตว์ที่ต้อน อาจมีต้นกำเนิดในช่วงคริสตศตวรรษที่ 9 ที่รัฐดานูบี บาสิน (Danube basin region) หรือประเทศฮังการีในปัจจุบัน ซึ่งนักประวัตศาสตร์เชื่อว่าโคมอนดอร์เป็นทายาทของสุนัขพันธุ์อัฟสชาร์กา (Aftscharka) ซึ่งชาวฮังกาเรียนได้คนพบที่บริเวณทางตอนใต้ที่เชื่อมต่อไปยังประเทศรัสเซีย โคมอนดอร์ทำหน้าที่ในการอารักขาฝูงสัตว์ของชนเผ่านอร์มัน เช่น แกะ แพะ และวัวจากนักล่าจำพวก หมาป่า หมีและมนุษย์ 

โคมอนดอร์ได้ถูกนำเข้ามายังประเทศสหรัฐอเมริการในช่วงทศวรรษที่ 1930  และได้รับการขึ้นทะเบียนโดย the American Kennel Club อย่างรวดเร็ว ด้วยขนาดที่ใหญ่และตื่นตัว สุนัขพันธุ์นี้ได้ถูกใช้ในกองกำลังอารักขาในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ภายหลังสงครามสุนัขพันธุ์นี้เริ่มขาดแคลนภายในประเทศ และ the Iron Curtain ได้เริ่มขัดขวางในการนำโคมอนดอร์เข้ามาจากประเทศฮังการี อย่างไรก็ตาม จากความพยายามของชาวฮังกาเรียนที่จะอพยพมาประเทศทางตะวันตก ทำให้สุนัขพันธุ์นี้ค่อยก่อตัวขึ้นในประเทศสหรัฐอเมริกาในช่วงปลายทศวรรษที่ 1960

ปัจจุบัน ประชากรโคมอนดอร์ส่วนใหญ่อยู่ในประเทศฮังการี และสหรัฐอเมริกา แต่สุนัขพันธุ์นี้ยังนับเป็นพันธุ์หายาก ประเมินกันว่ามีน้อยกว่า 10,000 ตัวทั่วโลก สุนัขพันธุ์นี้จึงเป็นสุนัขที่คนส่วนใหญ่ไม่เคยเห็น